ยุโรปช่วงใบไม้เปลี่ยนสี จุดชมวิวสุดโรแมนติกที่ไม่ควรพลาด

ถ้าพูดถึงฤดูกาลที่โรแมนติกที่สุดของยุโรป หลายคนอาจนึกถึงหิมะขาวในหน้าหนาวหรือแสงแดดอันอบอุ่นในฤดูร้อน แต่รู้ไหมว่าช่วงใบไม้เปลี่ยนสี หรือ Autumn ตั้งแต่กลางเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน คือช่วงเวลาที่ยุโรปงดงามมากที่สุด สีสันของใบไม้ที่ไล่เฉดตั้งแต่เหลืองทองไปจนถึงแดงเข้ม บวกกับอากาศเย็นสบายไม่หนาวไม่ร้อน ทำให้การทัวร์ยุโรปของใครหลายๆ คนกลายเป็นโมเมนต์ที่น่าจดจำ

ในบทความนี้ เราจะพาไปตะลุยจุดชมวิวสุดโรแมนติกทั่วยุโรป ตั้งแต่หมู่บ้านริมทะเลสาบยันเมืองเก่ากลางหุบเขาที่ต้องปักหมุด และแน่นอนว่าใครที่กำลังเล็งทัวร์ยุโรปอยู่ ก็มีทริคดีๆ สำหรับการเลือกวิธีเดินทางให้ตรงใจ ไม่มีหลง ไม่มีเฟล แถมยังได้ประสบการณ์ดีๆ กลับมาแน่นอน

ทำไมฤดูใบไม้ร่วงในยุโรปถึงน่าเที่ยวที่สุด

หลายคนอาจจะวางแผนเที่ยวยุโรปไว้ในช่วงซัมเมอร์หรือหน้าหนาว แต่ฤดูใบไม้ร่วงหรือช่วงปลายกันยายนถึงพฤศจิกายน ก็เป็นอีกฤดูที่ควรค่าแก่การแพ็คกระเป๋าไปเที่ยว มาดูกันว่าทำไมฤดูนี้ถึงกลายเป็นช่วงพีคของสายทัวร์ยุโรป และทำให้ใครหลายคนตกหลุมรักยุโรปแบบไม่รู้ตัว

• เสน่ห์ของใบไม้เปลี่ยนสีที่ไม่ใช่แค่ความสวย 
  ภาพใบไม้สีเหลือง แดง ส้ม ที่ปกคลุมทั่วทั้งเมือง มันไม่ได้สวยแค่ในรูปเท่านั้น แต่เวลาคุณได้ไปเดินอยู่ท่ามกลางวิวแบบนั้นจริงๆ ความรู้สึกมันจะคนละเรื่องเลย มันมีความละมุนบางอย่างที่ทำให้ทุกอย่างดูโรแมนติกขึ้นกว่าปกติ จะถ่ายรูปก็ออกมาดูอบอุ่น จะเดินเล่นก็เพลินเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหนังฝรั่ง บวกกับเมืองในยุโรปที่มีสถาปัตยกรรมคลาสสิกอยู่แล้ว พอจับคู่กับฤดูนี้คือเข้ากันแบบอธิบายไม่ถูกเลย
  
  
• อุณหภูมิกำลังดี เดินเล่นก็ฟิน ถ่ายรูปก็เป๊ะ
  อากาศดีไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป แค่หยิบเสื้อโค้ตสักตัวกับผ้าพันคอมาแมทช์สักหน่อย ก็พร้อมเดินชมวิวทั้งวันแบบไม่เหนื่อย อากาศช่วงนี้จะอยู่ประมาณ 10-18 องศา แล้วแสงธรรมชาติก็สวยมาก ใครชอบถ่ายรูปบอกเลยว่าช่วงนี้คือโกลเด้นไทม์ แค่ยืนเฉยๆ ยังได้รูปโปรไฟล์ใหม่แบบไม่ต้องใช้ฟิลเตอร์เลย
  
  
•  เทศกาลท้องถิ่น & ไวน์ใหม่ ได้ฟีล Autumn Vibes มาก
  อีกอย่างที่ทำให้ฤดูนี้มีเสน่ห์ไม่แพ้ฤดูอื่นก็คือ “เทศกาลท้องถิ่น” ซึ่งหลายประเทศในยุโรปจะจัดงานเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยว การลองไวน์ใหม่ (เรียกว่า Federweißer หรือ Vin nouveau) รวมถึงงานคราฟต์เล็กๆ ตามหมู่บ้านที่คุณจะได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบโลคอลจริงๆ ไม่ต้องเร่งรีบเหมือน high season

5 ประเทศในยุโรปที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยที่สุด

• ออสเตรีย - ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) เมืองในฝัของสายโรแมนติก 
  ฮัลล์สตัทท์คือเมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบในออสเตรียที่มีความสวยเกินเบอร์จนหลายคนตั้งฉายาให้ว่า “เมืองในเทพนิยาย” ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่จะมีเฉดสีทองแดงอมส้มตัดกับฉากหลังเป็นภูเขาและบ้านไม้สีพาสเทล บรรยากาศชวนฝัน ใครที่ชอบถ่ายรูปแนว cozy & romantic บอกเลยว่าต้องมาเช็กอินที่นี่สักครั้งในชีวิต
  
  
•  สวิตเซอร์แลนด์ - อินเทอลาเคน & ลูเซิร์น วิวภูเขากับใบไม้หลากสี
  สวิตเซอร์แลนด์ในช่วง Autumn คือความลงตัวของธรรมชาติ มองเห็นภาพวิวภูเขาหิมะที่มีต้นไม้สีส้มแดงอยู่เบื้องหน้า อินเทอลาเคนเหมาะกับคนที่อยากนั่งรถไฟชมวิว ส่วนลูเซิร์นคือเมืองสุดคลาสสิกริมทะเลสาบที่แค่เดินเล่นก็ได้รูปสวยทุกมุม ใครจองทัวร์ยุโรปเส้นทางสวิต บอกเลยว่าอย่าพลาดสองเมืองนี้เด็ดขาด
  
  
•  ฝรั่งเศส - ปารีสและแคว้น Alsace กับบรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปในโปสการ์ด
  ปารีสฤดูใบไม้ร่วงคืออีกหนึ่งโหมดของเมืองที่หลายคนยังไม่เคยสัมผัส ถนนริมแม่น้ำแซนที่เต็มไปด้วยใบไม้ปลิว และคาเฟ่เล็กๆ ที่มีกาแฟหอมๆ รออยู่ ส่วน Alsace เองก็คือแคว้นลับๆ สำหรับชาววินเทจ เพราะเป็นแคว้นไวน์ที่มีบ้านไม้หลากสีเรียงรายบนถนนหินก้อนเล็กๆ เหมือนอยู่ในการ์ดอวยพรยุโรปสมัยก่อน ฟีลลิ่งมันใช่มาก
  
  
• เยอรมนี - เส้นทางโรแมนติก & ป่าดำ (Black Forest)
  เส้นทางโรแมนติกในเยอรมนีที่พาเราไล่เมืองเก่าจากเหนือจรดใต้ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีคือไฮไลต์ของเส้นทางนี้เลย โดยเฉพาะเมือง Rothenburg หรือ Heidelberg ที่มีทั้งวิวริมแม่น้ำและปราสาทโบราณ ส่วน Black Forest ก็คืออีกมู้ดหนึ่งเลย เขียวเข้มผสมกับทองแดง ให้ฟีลลึกลับนิดๆ แต่สวยแบบน่าหลงใหล ถ้าใครจองทัวร์ยุโรปแบบเจาะเยอรมนี ต้องห้ามข้ามช่วงนี้ไปเด็ดขาด 
  
  
• เช็ก - ปรากยามใบไม้ร่วง สะพานชาร์ลส์ในหมอกยามเช้า
  ปรากในฤดูใบไม้ร่วงคือความโรแมนติกที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์แบบไม่ต้องปรุงแต่ง เดินข้ามสะพานชาร์ลส์ตอนเช้าที่มีหมอกบางๆ คลุมแม่น้ำวัลตาวา แล้วมองเห็นปราสาทปรากอยู่ไกลๆ คือภาพที่เหมือนโปสเตอร์ท่องเที่ยวแบบไม่ต้องรีทัช แถมเมืองนี้ยังเดินง่าย คาเฟ่น่ารักเยอะ และค่าครองชีพก็ไม่ได้แรงมาก ใครชอบทริปสโลว์ไลฟ์แต่ยังได้กลิ่นอายยุโรปชัดๆ ที่นี่ตอบโจทย์แบบเต็มสิบไม่หัก

แนะนำจุดเช็กอินยอดฮิตสำหรับฤดูนี้

• จุดชมวิวบนเขา 
  ถ้าอยากเห็นวิวเมือง + ภูเขา + ใบไม้เปลี่ยนสีครบในเฟรมเดียว ต้องไม่พลาดจุดชมวิวบนยอดเขาต่างๆ อย่างเช่น Harder Kulm, Gellért Hill หรือแม้แต่ Zugspitze ที่ขึ้นกระเช้าไปแล้วจะเจอวิวอลังการระดับโปสการ์ด แถมบางที่มี Skywalk ให้ได้ยืนกลางอากาศท่ามกลางทิวเขาอีกด้วย
  
  
• หมู่บ้านเล็กๆ ที่โอบล้อมด้วยสีสันของใบไม้ 
  หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาหรือริมทะเลสาบ คืออีกหนึ่งสไตล์ที่เหมาะกับฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมากๆ ไม่ว่าจะเป็น Hallstatt, Gruyères, Colmar หรือ Český Krumlov ทุกที่เหมือนหลุดออกมาจากภาพวาด และพอมีใบไม้สีทองๆ เข้ามาแต่งเพิ่มเข้าไปอีกหน่อย ก็ยิ่งละมุนขั้นสุด ใครชอบเดินเล่นช้าๆ จิบโกโก้ร้อน หรือหาคาเฟ่ถ่ายรูปในฟีลโฮมมี่ หมู่บ้านเหล่านี้คือจุดหมายที่ต้องมีในลิสต์ทัวร์ยุโรปของฤดูนี้
  
  
• สวนสาธารณะในเมืองใหญ่ที่กลายเป็นพรมใบไม้ 
  บางทีไม่ต้องหนีเข้าป่าหรือลุยขึ้นเขา แค่สวนสาธารณะกลางเมืองใหญ่ก็สามารถอินกับฤดูใบไม้ร่วงได้ อย่างเช่น Jardin du Luxembourg, Englischer Garten หรือ Hyde Park ที่พอใบไม้เริ่มร่วงลงมาปูพื้น ทั้งสวนจะกลายเป็นเหมือนพรมธรรมชาติที่เดินแล้วฟีลเหมือนหลุดไปในนิยาย จุเหมาะสำหรับคนที่มีแผนเที่ยวเมืองหลวงในทริปทัวร์ยุโรปแต่ยังอยากได้โมเมนต์ช้าๆ ซึ้งๆ ท่ามกลางบรรยากาศใบไม้ร่วง

ยุโรปในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีคือหนึ่งในฤดูที่สวยที่สุดของปี ทั้งบรรยากาศโรแมนติก วิวธรรมชาติสุดละมุน และเมืองน่ารักๆ ที่ยิ่งเพิ่มเสน่ห์เมื่อถูกแต่งแต้มด้วยสีสันของใบไม้ ใครกำลังวางแผนทัวร์ยุโรปช่วงนี้บอกเลยว่าเป็นจังหวะที่ดีมาก

และถ้าคุณอยากมีทริปยุโรปในฝันแบบไร้กังวล ลองให้ SMILE THAILAND TOUR ช่วยดูแลดูสิ ที่นี่เราไม่ใช่แค่ผู้จัดทัวร์ในประเทศและต่างประเทศที่ราคาดีงาม แต่ยังมีบริการครบทุกเรื่องเที่ยว ตั้งแต่จองโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน ไปจนถึงวีซ่า พร้อมทีมงานมืออาชีพที่เข้าใจไลฟ์สไตล์ของนักเดินทางรุ่นใหม่ เลือกแพ็กเกจที่ตรงใจ ปรับทริปได้ตามสไตล์คุณ และดูแลกันตั้งแต่วันแรกจนกลับถึงบ้าน

ชวนออกทริปใบไม้ร่วง เที่ยวยุโรปฟีลโรแมนติกเหมือนอยู่ในหนัง
สนใจสอบถาม ทัวร์ยุโรป กับ SMILE THAILAND TOUR

Mobile: 085-918-5266 , 088-758-3866 , 062-462-4244 
Line ID: smilethailandtour
Line@ ID: @smilethailandtour
Facebook : https://www.facebook.com/SmileThailandTour
E-Mail: smilethailandtour@hotmail.com , smilethailandtour.package@gmail.com 

เปิดบริการทุกวัน : จันทร์-เสาร์
(08.30 - 17.30 วันเสาร์ เปิดบริการถึง 14.00 น.)